รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier Series 1000 I PHILIPS

ช่วงนี้ที่ทุกคนกังวลกับสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 จนลืมฝุ่น PM2.5 กันไปเลย
แต่สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้อย่างเรา รู้สึกได้ตลอดเลยว่าฝุ่นจิ๋ว ไวรัสและสารก่อภูมิแพ้มันรุนแรงมากขึ้นในทุกๆ วัน T__T

ใครที่มีอาการภูมิแพ้อากาศ ภูมิแพ้ฝุ่น อยากได้เครื่องฟอกอากาศที่ฟอกละเอียดกว่า PM2.5
แล้วยังไม่รู้ว่าจะซื้อเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ?
วันนี้ไพลินมีเครื่องฟอกอากาศที่ใช้อยู่มาแนะนำทุกคนนนน

เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier Series 1000 รุ่น AC1715

New design !! เหมาะกับสายมินิมอล เข้ากับบ้านทุกสไตล์ พร้อมรางวัลการันตี การออกแบบ Red Dot Design Award 2022 และ iF Design Award 2022

เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์ รุ่น AC1715 เมื่อเปิดกล่องออกมาจะเจอคู่มือและรายละเอียดต่างๆ และตัวเครื่องฟอกอากาศ

เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูคู่มือการใช้ (ภาษาไทย) ได้ที่ลิงก์นี้เลย https://philips.to/3N11CW0

ภายในกล่องประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง แผ่นกรอง NanoProtect และปลั๊กอะแดปเตอร์

คุณสมบัติของเครื่องฟอกอากาศ

ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้และจัดการกับอากาศที่เป็นมลพิษในบ้านของเรา ซึ่งเจ้าเครื่องนี้สามารถกำจัดอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.003 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่า PM 2.5 ถึง 800 เท่า !!! หรือละเอียดกว่า HEPA Standard ถึง 100 เท่า!!! และเล็กกว่าขนาดของไวรัส ซึ่งผ่านการทดสอบประสิทธิภาพโดยสถาบัน iUTA

นอกจากนั้นยังผ่านการทดสอบกับ Life Virus สามารถกำจัดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ไวรัส H1N1 และแบคทีเรียได้ถึง 99.9% ยืนยันโดยสถาบันระดับโลก Airmid และผ่านการทดสอบกับโคโรน่าไวรัส

และยังมีคุณสมบัติในการกำจัดสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้และสปอร์เชื้อราได้ถึง 99.9% โดยผ่านการทดสอบจากสถาบันระดับโลกอย่าง ECARF

การทำงานของเครื่องฟอกอากาศ

วิธีติดตั้งให้ถอดฝาปิดด้านหลังออกจากเครื่อง จากนั้นก็ใส่แผ่นกรองเข้าไป เสร็จแล้วก็ปิดฝา เสียบปลั๊กพร้อมใช้งานได้เลย

ตัวแผ่นกรอง NanoProtect HEPA สามาถกรอง PM 2.5 ไวรัส สารก่อภูมิแพ้และอนุภาคต่างๆ ได้ถึง 0.003 ไมครอน !! ซึ่งเล็กกว่า PM 2.5 ถึง 800 เท่า (หรือละเอียดกว่า HEPA Standard 100 เท่า โดยสถาบัน iUTA)

เมื่อแตะที่ปุ่มเปิดเครื่องแล้ว หน้าจอจะแสดงขีด – – – แบบนี้เป็นการอุ่นเครื่อง การใช้งานเป็นระบบสัมผัสหน้าจอเป็นแบบ Touch screen ดูทันสมัยและใช้งานง่าย จากนั้นเครื่องฟอกอากาศจะแสดงคุณภาพอากาศภายในห้องบนหน้าจอ

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าอากาศในห้องเราดีหรือไม่ดี ?
คำตอบคือง่ายมาก ! เพื่อนๆ สามารถดูได้จากหน้าจอแสดงผลได้เลย ไฟแสดงคุณภาพอากาศจะติดขึ้้นโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง และสีของวงกลมไฟจะเปลี่ยนไปตามคุณภาพอากาศ

สีแดง = อากาศไม่ดีมากๆ

สีม่วง-แดง = อากาศไม่ดี

สีน้ำเงิน-ม่วง = อากาศดีปานกลาง

สีน้ำเงิน = อากาศดี

ปุ่มการทำงานที่แสดงบนหน้าจอ
มีโหมดปรับระดับความแรงตั้งแต่ ระดับอัติโนมัติ : เครื่่องฟอกอากาศจะปรับความเร็วพัดลมตามคุณภาพอากาศแวดล้อม

ความเร็วแบบกำหนดเอง : ความเร็วระดับ 1

ความเร็วแบบกำหนดเอง : ความเร็วระดับ 2

โหมดเทอร์โบ : เครื่องฟอกอากาศจะทำงานที่ความเร็วสูงสุด

และสุดท้ายโหมดเทอร์สลีป : เครื่องฟอกอากาศจะทำงานอย่างเงียบ มีความเร็วต่ำ และไฟหน้าจอจะดับลงหลัง 3 วินาที

นอกจากนี้ยังมี ฟังก์ชันเปิด/ปิดไฟ สามารถควบคุมการเปิด/ปิดไฟหน้าจอได้เพียงแตะที่ปุ่มรูปดวงไฟ

หน้าจอจะปิดแสงทุกอย่าง ทำให้ไม่มีแสงรบกวนแม้เวลาเราหลับ

และที่สำคัญเจ้าเครื่องตัวนี้สามารถสั่งการผ่านมือถือได้ ! โดยเราสามารถสั่งการผ่าน Application บน Smartphone ได้เลยค่ะ

ขั้นตอนการเชื่อมต่อ Applicationขั้นตอนแรก เริ่มจากติดตั้งแอพ สแกน QR code ที่ข้างกล่อง หรือเข้าไปดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น “Clean Home+ App” ที่ App store

หน้าตาแอพลิเคชั่น Clean Home+

จากนั้นเปิดเครื่องฟอกอากาศ แล้วทำการลงทะเบียน และเชื่อมต่อกับเครื่องฟอกอากาศตามขั้นตอน ลงทะเบียนสมาชิก philips > เชื่อมต่อเข้ากับตัวเครื่องฟอกอากาศ > เลือกที่ตั้งของเครื่อง เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยเราสามารถสั่งงานผ่านแอพให้เครื่องฟอกอากาศทำงานจากที่ไหนก็ได้เลย

มา! พร้อมแล้วเรามาลองทดสอบประสิทธิภาพในการฟอกอากาศของเจ้าเครื่องนี้กัน เราจะลองทดสอบความเร็วในการฟอกอากาศของเครื่องกันค่ะ (ห้องของเราขนาดประมาณ 20 ตรม.) โดยเราจะจับเวลาตั้งแต่เครื่องเริ่มทำงานกันเลย โหมดที่เราลองทดสอบคือ โหมดอัตโนมัติ นะคะ

โห!!! แค่เปิดเครื่องมาค่าฝุ่นก็พุ่งขึ้นถึงสองร้อยเลย ถ้ามองด้วยตาเปล่าไม่รู้เลยว่าห้องเรามีฝุ่นขนาดนี้

ผ่านไปประมาณแค่ 3 นาที ค่าอากาศก็เข้าสู่เกณฑ์อากาศดีแล้วค่ะ

อากาศดีขึ้นจนถึงเลขตัวเดียวได้ภายใน 6 นาทีเลย !
มั่นใจได้ว่าอากาศสะอาด หายใจได้เต็มปอด สบาย หมดกังวลเลยค่ะ 😀

และนอกจากคุณสมบัติในการกำจัดฝุ่นและกรองอากาศที่สุดยอดแล้ว รูปทรงการดีไซน์ของตัวเครื่องก็ทันสมัย เรียบหรู ดูแพง เข้าได้กับทุกสไตล์การแต่งบ้านของเราอีกด้วยนะคะ จะวางมุมไหนก็ดูดี ^^ (ขนาดเครื่องฟอกอากาศ สูง 486 มม. กว้างxยาว 273 x 273 มม.) เหมาะสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 78 ตร.ม.

ความรู้สึกส่วนตัวเราชื่นชอบเครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์รุ่น AC1715 นี้มากเลย ตัวเครื่องสีสวย ดีไซน์ทันสมัยเข้ากับทุกมุมในบ้าน มีปุ่มทำงานไม่ซับซ้อน มีฟังก์ชั่นการทำงานที่สะดวก ใช้ง่าย การทำงานของเครื่องเงียบดีมาก และสามารถควบคุมการทำงานผ่านแอปได้ด้วย เลิศสุดๆ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าจริงๆ ค่ะ และที่สำคัญที่สุดคือคุณสมบัติในการฟอกอากาศที่ครอบคลุมทั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ฝุ่นและก๊าซ เรียกได้ว่าครบจบในเครื่องเดียว ดีมากๆ เลยค่ะ

บอกเลยว่าเจ้าเครื่องตัวนี้เหมาะมากๆ กับทุกบ้าน ยิ่งคนที่เป็นภูมิแพ้ ยิ่งต้องมีติดบ้านไว้เลย

Philips Air Purifier Series 1000 รุ่น AC1715
ราคา 9,990 บาท

หากเพื่อนๆ สนใจอยากมีเจ้าเครื่องนี้ไว้ที่บ้านเหมือนกันสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้เลย https://www.philips.co.th/c-p/AC1715_21/air-purifier-1000i-series#reviews